รีวิว The sandman
ประเทศ: United States | เสียงพากย์:English, Thai | ปี: 2022 | 10 ตอน
ประเภท: แอ็คชั่น, ผจญภัย, อาชญากรรม, ไซไฟ, แฟนตาซี
ผู้กำกับ:ทอม สเตอร์ริดจ์, บอยด์ โฮลบรูค, แพทตัน ออสวัลท์, วิเวียน อาเคียมพอง, เกวนโดลิน คริสตี้, ชาร์ลส์ แดนซ์, เจนน่า โคลแมน, เดวิด ธิวลิส, สตีเฟน ฟราย, เคอร์บี ฮาเวลล์-แบปทีสต์, เมสัน อเล็กซานเดอร์ พาร์ก
The sandman เทพเจ้า ห้วงความฝัน วิจารณ์หนัง รีวิวหนัง 2022
ก่อนอื่น ฉันต้องบอกว่า THE SANDMAN เป็นโครงการที่ไม่เคยมีอนาคตมาก่อนเนื่องจากการดัดแปลง ย้ายบ่อยซึ่งในขั้นต้นจะทำเป็นโรงภาพยนตร์ แต่สุดท้ายก็ตกอยู่ที่ NETFLIX เอง และเป็นการ์ตูนที่สื่อหลายๆ ยกมันขึ้นไปด้านบนหรือคอมมิคที่ดีที่สุดตลอดกาล ในเมืองไทยหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเท่าไหร่แต่บอกได้เลยว่า คุณภาพของชื่อนั้นไม่ธรรมดา มาจาก DC chain ที่เราคุ้นเคย แต่ในธีมมืดๆ เรียกว่า DC VERTIGO เอง ซึ่งหลายคนอาจจะรู้จักตัวละครอย่าง CONSTANTINE หรือ LUCIFER นั่นเอง จากหัวของ VERTIGO คนนี้ด้วย และในเรื่องนี้ก็มีตัวละครเหล่านี้ด้วย และบอกเลยว่าไม่ธรรมดาสำหรับ THE SANDMAN ซึ่งในเรื่องนี้จะเล่าในกลุ่ม ENDLESS หรือสุดยอดเทพแห่งจักรวาล ได้แก่ ความฝัน ความตาย โชคชะตา , ความปรารถนา, Dellrium, การทำลายล้าง, ความสิ้นหวังในการดูแลและตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์. ดูแลหน้าที่ของตนแต่ละคน โดยจะเน้นที่ DREAM หรือความฝันที่ดูแล Create Human Dreams เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงเวทมนตร์ ความฝัน เทพ และเล่นประเด็นกับจิตใจมนุษย์อย่างลึกซึ้งและสมบูรณ์แบบ
เนื้อเรื่องต้องบอกจากคอมมิคว่าทำได้ดีอยู่แล้ว และเรื่องนี้สามารถดัดแปลงให้เข้าใจง่ายแต่ปกปิดได้หลายอย่าง รวมทั้งในการเล่าเรื่องในแต่ละช่วงแต่ละ EP ก็ทำได้ดีมาก 1-5 เน้นแฟนตาซี สายเวทย์มนตร์แน่ใจว่าจะโปรด การกระทำเป็นเรื่องสนุก แต่ในตอนหลัง 6-10 จะเน้นเจาะลึกประเด็นส่วนตัว ความสัมพันธ์ การคิดของมนุษย์ ความตั้งใจที่อาจไม่ฉูดฉาดเหมือนตอนแรกแต่ดีจริง ๆ รวมทั้งเมื่อสามารถทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ คลี่คลายเบาะแสก่อนหน้าทั้งหมดและสื่อก็ออกมาดี อย่ากลัวไม่ทำตามก่อนจะไม่เข้าใจ เพราะช่วงแรกของหนังสามารถเล่าและดัดแปลงตามความเข้าใจได้เป็นอย่างดี และโดยส่วนตัวแล้วถ้าติดตั้งเครื่องไว้จะไม่น่าเบื่อและเข้าใจได้เลยว่าสุดท้ายก็เข้าข่ายทุกเรื่อง เรื่องที่จัดวางและในอนาคตรวมถึงการเล่าเรื่องในแต่ละภาคก็มีแนวหนังที่แตกต่างกันไปแต่ละ EP เน้นหัวข้ออื่น แต่ก็เข้าใจได้ไม่ยาก แต่อาจจะลึกเกินไปสำหรับบางท่านในหลายตอน เช่น EP 6-8 อาจจะมีหลุดได้ถ้าไม่ได้ตั้งใจหรือข้ามอะไรไป
ตัวนักแสดงเอง เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้สมบูรณ์แบบ มีหลายฉากที่มีสถานที่จำกัด นักแสดงสามารถบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดได้โดยไม่น่าเบื่อและแสดงอารมณ์ทั้งสองได้ ความหงุดหงิดของผู้ชมและความคาดหวังว่า EP5 จะเป็นอย่างไรต่อไป EP5 นี้ชัดเจนว่าเราจะมี David Thewlis ขึ้นแสดงแบบเต็มๆ กับนักแสดงนำอย่าง Tom Sturridge , Niamh Walsh , Boyd Holbrook และอีกมากมาย ซึ่งตัวละครมีมากมาย ที่เปลี่ยนไปจากตัวละครที่เราคุ้นเคย เช่น LUCIFER ได้แปลงร่างเป็นผู้หญิง รับบทโดย เกวนโดลีน คริสตี้ ซึ่งจริงๆ แล้วสามารถปรับเปลี่ยนได้ทั้งตัวละครและบทบาทนั่นเอง แต่สมมุติว่ามีฉากที่เราได้เห็นการต่อสู้ของ LUCIFER และ DREAM ในแบบที่แปลกจริงๆ เป็นการต่อสู้ระดับพระเจ้าสูงสุดที่ไม่ต้องใช้กำลัง แต่เป็นการถ่ายทอดสิ่งใหม่และคล้ายกับการ์ตูน นอกจากนี้ ฉันไม่คิดว่ามันจะทำออกมาได้ดีในครั้งแรกที่ฉันดูมัน และนักแสดงทุกคนก็สื่อสารด้วยสายตาของพวกเขาบ่อยๆ และพวกเขาสามารถเอื้อมมือออกไปได้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไร ส่วนนี้ต้องขอบคุณ แต่อาจมีตัวละครบางตัวที่ไม่มีตาก็ยังเล่นได้ดีทั้งสองท่าทาง และเอกลักษณ์ของตัวละครเองทำให้รู้สึกว่าแต่ละเทพและแต่ละคนมีดีในแบบของตัวเอง
งานศิลปะนั้นสวยงามและมีเอกลักษณ์ แต่ขอชื่นชมว่าน้ำเสียงของหนังทำได้ดีมาก ละครเงาและสื่อของแต่ละฉากในแต่ละช่วงเวลา บางครั้งเราจะเห็นการใช้เลนส์มุมกว้างโดยที่ขอบด้านข้างโก่งหรือคนสูงบางเพราะอาจต้องการสื่อว่าอยู่ในความฝันต่างๆ มุมมองต่างจากที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์ค่อนข้างมาก แต่ชอบ เพราะโดยส่วนตัวแล้วเป็นศิลปินทัศนศิลป์อยู่แล้ว และซีรีส์เรื่องนี้งานทัศนศิลป์ก็ขมขื่นว่าสวยและอารมณ์ดี ของภาพรวมทั้งเพลงประกอบเองสามารถสร้างอารมณ์ของแต่ละช่วงเวลาได้ดีเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะต้องตื่นเต้นหรือมีอารมณ์ร่วมกัน ซึ่งไม่มีเพลงติดหู แต่หลายๆ ครั้งการเลือกเพลงแบ็คกราวด์ก็ช่วยเสริมอารมณ์ได้ดี ผลงานเพลงประกอบค่อนข้างโดดเด่นสำหรับหนังประเภทนี้ที่อาจไม่มีช่วงเวลาในการใส่เพลงที่ติดหูเพราะแนวดราม่ามืดอาจเล่นอะไรบางอย่าง
สรุป
รีวิวหนัง ภาพรวมกล้าบอกว่าเป็นซีรีย์ NETFLIX ที่ดีที่สุดที่เคยดูมาไม่เยอะ ทั้งคุณภาพของภาพ ความกลมกลืนของบท เนื้อหา และการเล่าเรื่องได้เป็นอย่างดี การแปลที่สมบูรณ์แบบของนวนิยายในตำนานของ Neil Gaiman เพราะครั้งนี้เขามาดูแลตัวเองจึงไม่แปลกใจเลยจริงๆ ด้วยความมืดมิดของภาพยนตร์ที่แนว DC เพิ่มความแฟนตาซีของเวทมนตร์จริงๆ เหล่าทวยเทพ ผมบอกได้เลยว่ามันสมบูรณ์แบบ ดูง่าย และไม่เครียดอย่างที่หลายคนคิด อยากลองเปิดใจดู เป็นซีรีส์คุณภาพที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในแนวนิยายเทพๆ แบบนี้ และเรื่องนี้ก็ติดอันดับต้นๆ อยู่แล้ว และภาคต่อมาแน่นอน ปูแบบนี้มีเยอะมากและก็อีกนาน ให้ฉันบอกคุณ. เรื่องนี้โดยส่วนตัวแล้วฉันชอบ EP5 ซึ่งเป็นจุดเดือดในการ์ตูนและแสดงให้เห็นถึงพลังของนักแสดงและผู้เขียนบท EP ทั้งหมดอยู่ในร้าน DINER แต่บอกได้หลายอย่าง และไม่น่าเบื่อ ยอมรับว่าที่สุดและกล้าทำออกมา รีวิวหนังเพิ่มเติม : school tales the series, Emergency Declaration.