รีวิว What If…?
ประเทศ: United States | เสียงพากย์:English, Thai | ปี: 2021 ประเภท: แอ็คชั่น, ผจญภัย, ฮีโร่,
ผู้กำกับ: Bryan Andrews
จะเกิดอะไรขึ้นถ้า Steve Rogers ไม่ได้รับเซรั่มที่ทำให้เขาเป็น Captain America? มหาเศรษฐีเพลย์บอย โทนี่ สตาร์ค ไม่ได้สร้างตำนานไอรอนแมน Spider-Man เป็นคนเดียวกับพ่อมด ทีชาล่าคือสตาร์ลอร์ด ธานอสเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ อัลตรอนชนะ ฮีโร่กลายเป็นซอมบี้และผู้เฝ้าดูจะลงมาเป็นผู้เล่นในสนาม
เมื่อความทรงจำทั้งหมดจากภาพยนตร์ขนาดใหญ่ของ Marvel Universe สั่นคลอนอย่างหนักในซีรีส์ 9 ตอนที่ออกอากาศทาง Disney+ (Disney Plus)
แอนิเมชั่น Marvel Cinematic Universe เปลี่ยนโลกภาพยนตร์เหนือความคาดหมายที่สุดของคุณ
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าไม่ใช่แค่อนิเมชั่นอเวนเจอร์ส แต่มันเล่นกับใจคนดูหรือเปล่า?
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันจะส่งผลกระทบต่อเฟส 4 ของ Marvel Universe?
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่ใช่แค่เรื่องสมมติอย่างที่หลายคนเข้าใจ
เพราะทันทีที่เกิดอะไรขึ้นถ้า…? ซีซั่นแรกเกือบจะออนแอร์แล้วทั้ง 9 ตอน คนวงในได้กระซิบว่าซีซันที่สองได้รับการอนุมัติสำหรับโครงการที่จะเริ่ม (แม้จะเป็นเพราะสถานการณ์ covid-19)
แฟน Marvel รู้ดีว่า MCU สนุกกับเรื่องราวที่เชื่อมโยงกัน ในจักรวาลด้วยกัน เขายังชอบใส่ไข่อีสเตอร์ในภาพยนตร์และซีรีส์ (แบบที่แทบจะจับไข่ไม่ได้) และที่ดูเหมือนว่าจะเชื่อมโยงกับแอนิเมชั่นชุดนี้มาจากตอนจบของซีรีส์ ‘โลกิ’ โดยมีไทม์ไลน์ศักดิ์สิทธิ์แตกแยกออกเป็นความโกลาหล
พูดง่ายๆ ก็คือ เหตุการณ์ในโลกคู่ขนาน และไทม์ไลน์ถูกทำลายไปอย่างสิ้นเชิง จนกระทั่งความจริงที่คาดเดาไม่ได้ชุดใหม่ถือกำเนิดขึ้นว่าซีรีส์นี้จะพาเราไปยังจุดสิ้นสุด เราจึงจัดทำคู่มือที่ครอบคลุมทุกสิ่งที่คุณควรรู้ก่อนรับชมจะเกิดอะไรขึ้นถ้า…? คุณจะสามารถพูดคุยกับเขาได้เกี่ยวกับเรื่องนี้!
ความโกลาหลในโลกคู่ขนานต่างมิติจากโลกิสู่ What if …?
หลังจากบทสรุปของมินิซีรีส์ Loki ที่ Silvy (เวอร์ชั่นผู้หญิงของ Loki) สังหาร Conqueror หรือ ‘Kang The Conqueror’ จอมวายร้ายในมิติคู่ขนานอื่น ๆ ได้สร้าง TVA (Time Variance Authority) หรือผู้พิทักษ์เวลาศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ พร้อมกับไทม์ไลน์ที่แตกแขนงออกไปอย่างไม่สิ้นสุด เหมือนปริซึมแตกกระจายอย่างคาดไม่ถึง ทำให้เกิดความโกลาหลในซีรีส์ เกิดอะไรขึ้นถ้า…? เพื่อบอกเล่าเรื่องราวในโลกคู่ขนานผ่านตัวละครลึกลับของจักรวาลมาร์เวล ‘The Watcher’ (พากย์เสียงโดย เจฟฟรีย์ ไรท์) มนุษย์ต่างดาวที่ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว การกระทำใดๆ ในจักรวาลโดย The Watcher จะทำหน้าที่เชื่อมโยงเรื่องราวเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น แบบสั้นๆ ก่อนดูแต่ละซีรี่ย์ Ep. แค่นั้นแหละ.
เกิดอะไรขึ้นถ้า…? จะพาคุณเดินทางคู่ขนานจากมิติหนึ่งไปสู่อีกมิติหนึ่ง เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นคือโลกหลายใบที่มีซูเปอร์ฮีโร่คนเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Tony Stark, Bruce Banner, Steve Rogers, Thor, Natasha Romanoff เป็นต้น ล้วนมีเหตุการณ์ที่แตกต่างกันใน แต่ละจักรวาล และในทุก ๆ โลกที่ Watcher พาเราไป เขาได้สรุปเหตุผลไว้สั้นๆ ที่ก่อให้เกิดความวุ่นวายในแต่ละจักรวาล คำสอนของพระองค์มักจะรวมถึงปรัชญาของพระเจ้าที่เข้าใจโลก
ในซีรีส์เมื่อเห็นการปรากฏตัวของ The Watcher ในที่ต่างๆ ก็รู้สึกเหมือนกับว่าเราเห็นทุกอย่างผ่านสายตาของเขา
แอนิเมชั่น Marvel Studios นี้กำกับโดย Brian Andrews และนำโดยผู้เขียนบท A.C. Brandley ถ่ายทอดเรื่องราวเหนือจินตนาการในมิติคู่ขนานผ่านการฉายภาพเซล ซึ่งเป็นเทคนิคสำหรับการสร้างแอนิเมชั่นสองมิติที่แบนราบ ทำให้อารมณ์ของภาพเหมือนเรากำลังอ่านการ์ตูนคลาสสิกไปพร้อม ๆ กัน (สมมุติว่า Marvel ทำได้ดีและเก็บรายละเอียดได้อย่างราบรื่น) แต่ละตอนมีความยาวไม่เกิน 30 นาที ดังนั้นซีรีส์จึงดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนผู้ชมอาจไม่ทันสังเกตด้วยซ้ำ ถึงเรื่องราวจะมากขนาดไหนก็จบลงด้วยตอนที่ดื้อรั้น แต่มันสนุกและผสมผสานมุขตลกสไตล์มาร์เวลได้อย่างลงตัว แม้ว่าบางตอนอาจดูไม่จบเร็วจนเราสับสนและเกาหัวเบาๆ แล้วอุทานว่า อิหยังวะ
What if ...? จินตนาการให้สุดแล้วหยุดที่อัลตรอนชนะ!
ความสนุกของ What if…? อยู่ที่คุณจะกระโดดจากโลกอีกใบสู่โลกอีกใบที่ไม่เชื่อมโยงกันเลย ตั้งแต่โลกใบแรกที่มี ‘เพ็กกี้ คาร์เตอร์’ เป็นสตรีคนแรกของโลกที่ได้รับเซรุ่มซูเปอร์โซลเยอร์แทนสตีฟ โรเจอร์ส ส่งผลให้เธอเป็น ‘กัปตันคาร์เตอร์’ และซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนแรกของทีมอเวนเจอร์ส ในยุคที่สิทธิสตรีและความเท่าเทียมไม่มีอยู่จริง เธอจึงโดนกีดกันอย่างหนักในช่วงต้น จนในที่สุดเธอก็พิสูจน์ความสตรองของฮีโร่พลังหญิงได้สำเร็จ
จากนั้น The Watcher ก็พาเราไปโลกอีกใบที่ความผิดพลาดของยอนดู ทำให้ทีชาลากลายเป็นสตาร์ลอร์ด ซึ่งส่วนตัวเราว่าเขาทำหน้าที่เจ้าชายแห่งจักวาลได้น่าเกรงขามกว่าปีเตอร์ ควิลล์ซะอีก ถึงขนาดที่เกลี้ยกล่อมให้ธานอสปล่อยวางแผนดีดนิ้วทำลายล้างโลกได้สำเร็จ และกลายเป็นโจ๊กชามใหญ่ของจักรวาลที่เอาไว้หยอกล้อธานอส (แถมเจ้าตัวก็ไม่โกรธด้วยนะ)
แต่ที่ดาร์คเวิลด์สุดๆ ต้องยกให้ ‘ด็อกเตอร์สเตรนจ์’ ที่พาเราดิ่งสุดสู่ด้านมืดของจิตใจมนุษย์ เมื่อโลกใบนั้นเขาไม่ได้สูญเสียมือแต่กลับสูญเสียคนรักไปตลอดกาล เขาจึงฝึกฝนความเป็นนักเวทย์กับเอเชี่ยนวัน จนได้ครอบครองไทม์สโตน แต่เขากลับนำไปใช้ในทางที่ผิดและดูดกินพลังมืด ช่วยเพิ่มวิชามารให้กับตัวเอง เพื่อชุบชีวิตคนรักจึงต้องแลกกับทุกชีวิตในจักรวาลเข้าทำนอง “โลกทั้งใบให้เธอคนเดียว”
ความสนุกของโลกแต่ละใบล้วนมีเสน่ห์ไม่แพ้กัน อย่างคดีฆาตกรรมหมู่ทีมอเวนเจอร์สเพื่อยุบโปรเจ็คต์ลับของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่ (เหมือนเป็นการตอกฝาโลงตั้งแต่ยังไม่ทันได้ตัดสายสะดือ) จะเกิดอะไรขึ้นถ้าความผิดพลาดในมิติควอนตัมส่งผลให้ซูเปอร์ฮีโร่และชาวโลกกลายเป็นซอมบี้ ที่แตกต่างจากซอมบี้ในหนังแนวนี้ก็ตรงซอมบี้ซูเปอร์ฮีโร่สามารถใช้พลังและเคล็ดลับวิชาเหมือนตอนยังมีชีวิตได้อย่างคล่องแคล่วด้วยนะจ๊ะ หรือตอนเบาสมองอย่างการที่ธอร์กลายเป็นเทพเจ้าสายเอนท์ฯ ที่พามนุษย์ต่างดาวมาปาร์ตี้สุดมันบนดาวโลก
แต่ที่พีคสุดๆ ต้องยกให้ตอน 8 ‘What if…Ultron Won?’ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าอัลตรอนสามารถรวมร่างกับวิชั่นได้สำเร็จ มีเพียงนาตาชา โรมานอฟ (แบล็ควิโดว์) และคลินท์ บาร์ตัน (ฮอว์คอาย) สองเพื่อนซี้ที่คอยกอบกู้โลกจากแผนการร้ายของอัลตรอน ถึงขนาดที่ทำให้ The Watcher อาจจะอดรนทนไม่ไหวยอมผิดคำสาบานและลงมาปกป้องทุกสิ่งก่อนที่จะสายเกินไป ซึ่งก็เป็นตอน 8 นี่แหละที่ทำให้เหล่านักวิจารณ์ทั่วโลกถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ต้องลุกขึ้นมาคาดเดาตอนจบของซีซั่น และเรื่องราวภาคต่อในซีซั่น 2 จนถึงการเชื่อมโยงสู่เฟส 4 ของจักรวาลมาร์เวลกันชนิดถ้าเป็นจริงตามนั้นคงมันหยดติ๋งเลยล่ะ
ความว้าว
พูดตามตรง ฉันต้องบอกว่าซีรีส์นี้จะสร้างมรดกตกทอดไว้ได้พอสมควร หรือสร้างความช็อคให้กับหนังเรื่องอื่นๆ ของ Marvel? เพราะทั้งๆ ที่คอนเฟิร์มแล้วว่าซีรีย์นี้ก็คือ Canon หรือเป็นเรื่องราวในโครงเรื่องของ MCU หลัก แต่มีหลายจักรวาลที่ Marvel สามารถหลอกลวงเราทุกคนได้ อันนี้ใช้ – อันนี้ไม่ได้ใช้ เป็นไปได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การเปิดพื้นที่ให้แฟนบอยทุกคนได้อภิปรายหรือจินตนาการว่า เกิดอะไรขึ้นถ้าสิ่งนี้ถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์เรื่องนี้? ก็สวยไม่แพ้กัน