รีวิว BLACK WIDOW
ประเทศ: อเมริกัน | เสียงพากย์:English | ปี: 2021 | 134 นาที
ประเภท: แอ็คชั่น, ผจญภัย, ไซไฟ,
ผู้กำกับ: Cate Shortland,
นักแสดง: Scarlett Johansson, William Hurt, Florence Pugh, Rachel Weisz, David Harbour, Ray Winstone, O.T. Fagbenle, Simona Zivkovska, Yolanda Lynes,
หนังเดี่ยวที่ เรียบง่าย ธรรมดา รีวิว BLACKWIDOW ไม่เด่นเท่าที่คิด !
BLACK WIDOW เป็นตัวละครหญิงจาก MARVEL แน่นอนว่าหลายๆคนต้องรู้จักและคุ้นเคยแน่นอน เพราะเป็นนักแสดงหลักของภาพยนตร์ MCU หลายเรื่องเป็นอย่างดี จนกระทั่งล่าสุดพวกเขาได้ทำหนังฉายเดียวของ แบล็ควินโด้ ขึ้นมา นางเอกสาวคนที่สองของค่ายกับหนังเดี่ยว แน่นอนว่าตัวละครนี้ต้องเป็นคนที่ติดตามจริงๆ ดังนั้น ก็น่าจะเพียงพอแล้วที่จะรู้จักนางเอกคนนี้ แต่การหยิบเอาตัวละครมาทำหนังเดี่ยวของเรา อย่างที่เรารู้ๆ อนาคตของตัวละครนั้นในจักรวาลจะไม่ดำเนินต่อไป ทำให้หลายคนสงสัยว่าจะเล่าเรื่องแบบไหน ก่อนหน้านี้ฉันต้องบอกว่าฉันคาดหวังว่ามันจะรู้สึกเหมือนกับ Captain America Winter Soilder แต่ดูไปดูมาต้องบอกว่ามันทำแบบนั้นไม่ได้และมันเป็นหนังธรรมดาๆ ไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ และต่ำกว่ามาตรฐานของ MCU เท่าที่ผมเคยเห็นมาทั้งหมด รวมถึงการไม่ให้โฟกัสกับเราเลยในหนังเรื่องนี้ มันง่ายทั้งหมด ธรรมดาและไม่มีพีค หรือโดดเด่นจนน่าจดจำในหนังเดี่ยวเรื่องนี้
หลังจากที่ไทยเลื่อนการแสดงออกไปอย่างไม่มีกำหนด แน่นอนว่าแอดมินแอบเตือนให้ไปดู Disney+ ที่ต่างประเทศก่อนขอรีวิว ทำไมเป็นหนังที่แอบผิดหวังที่สุด? และไม่โดดเด่นรวมถึงหนังเรียบง่ายที่ไม่สามารถให้คนมาดูหนังได้เท่าที่ควร ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Kate Shortland ซึ่งจะเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง Berlin Syndrome ที่อาจไม่ค่อยทำการตลาดมากนัก แต่เมื่อพูดถึงการกำกับภาพยนตร์ในตลาดแบบนี้ กลับรู้สึกว่าไม่สามารถถ่ายทอดอะไรให้ชัดเจนหรือโดดเด่นได้ ทำให้แอบเสียใจในหลายส่วนของหนังเป็นอย่างมาก ในเรื่องของเนื้อเรื่อง ในบทนั้นต้องบอกว่าหนังเล่าเรื่องที่ง่ายเกินไป บทต่าง ๆ สามารถคาดเดาได้ง่ายและไม่ได้ลงลึกเท่าที่ควร หลายประเด็นถูกหยิบยกขึ้นมา แต่ไม่มีความลึกหรือว่าเราเข้าไปในตัวละครได้มากแค่ไหน รวมถึงตัวหนังเองด้วย มันไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวในแนวสายลับจริงๆ หรือว่ามันไปในทิศทางนั้นมากแค่ไหน แทนที่จะพูดถึงเรื่องครอบครัว การแก้แค้นที่ดูเหมือนไม่สิ้นสุด ดังนั้นตัวหนังเองจึงอยู่ตรงกลางซึ่งน่าเสียดายมากในจุดนี้ และไข่มุกจำนวนมากถูกใส่เข้าไปในภาพยนตร์ที่ไม่เข้ากับหนังจริงๆ ทำให้ภาพรวมทั้งบทและโครงเรื่องออกมาเนียน ไม่มีจุดพีคไฮไลท์เข้ามาให้น่าจดจำ
หลังจากที่ไทยเลื่อนการแสดงออกไปอย่างไม่มีกำหนด แน่นอนว่าแอดมินแอบเตือนให้ไปดู Disney+ ที่ต่างประเทศก่อนขอรีวิว ทำไมเป็นหนังที่แอบผิดหวังที่สุด? และไม่โดดเด่นรวมถึงหนังเรียบง่ายที่ไม่สามารถให้คนมาดูหนังได้เท่าที่ควร ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย Kate Shortland ซึ่งจะเป็นที่รู้จักจากภาพยนตร์เรื่อง Berlin Syndrome ที่อาจไม่ค่อยทำการตลาดมากนัก แต่เมื่อพูดถึงการกำกับภาพยนตร์ในตลาดแบบนี้ กลับรู้สึกว่าไม่สามารถถ่ายทอดอะไรให้ชัดเจนหรือโดดเด่นได้ ทำให้แอบเสียใจในหลายส่วนของหนังเป็นอย่างมาก ในเรื่องของเนื้อเรื่อง ในบทนั้นต้องบอกว่าหนังเล่าเรื่องที่ง่ายเกินไป บทต่าง ๆ สามารถคาดเดาได้ง่ายและไม่ได้ลงลึกเท่าที่ควร หลายประเด็นถูกหยิบยกขึ้นมา แต่ไม่มีความลึกหรือว่าเราเข้าไปในตัวละครได้มากแค่ไหน รวมถึงตัวหนังเองด้วย มันไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวในแนวสายลับจริงๆ หรือว่ามันไปในทิศทางนั้นมากแค่ไหน แทนที่จะพูดถึงเรื่องครอบครัว การแก้แค้นที่ดูเหมือนไม่สิ้นสุด ดังนั้นตัวหนังเองจึงอยู่ตรงกลางซึ่งน่าเสียดายมากในจุดนี้ และไข่มุกจำนวนมากถูกใส่เข้าไปในภาพยนตร์ที่ไม่เข้ากับหนังจริงๆ ทำให้ภาพรวมทั้งบทและโครงเรื่องออกมาเนียน ไม่มีจุดพีคไฮไลท์เข้ามาให้น่าจดจำ
งานภาพและเสียงต้องบอกว่าหลายฉากดี แม้จะไม่มีมุมมองที่แปลกแต่ต้นเรื่องก็รวมถึงอินโทรด้วย น่าจะเลือกเพลง NIRVANA และภาพออกมาได้ฉากที่สวยงามและดีที่สุดในภาพยนตร์และไม่มากเกินไป บีททั้งสองทำได้ดีมาก รวมถึงเพลงประกอบ ส่วนตอนเข้าหนังไม่มีภาพหรือฉากไหนเด่นในภาพยนตร์แต่เพลงประกอบก็ถ่ายทอดหนังได้ดีไม่มีปัญหา งาน CG ได้เนียนสวยหลายฉากทั้งฉากและอุปกรณ์แต่จะเห็นว่ามีบางฉากหลุดไปชัดเจน และฉากหลักก็อาจจะไม่เนียนมากแค่ฉากเดียว
สรุป รีวิว BLACK WIDOW ที่ผมให้คะแนน
ภาพรวมเป็นหนังที่ไม่ฉูดฉาดหรือโดดเด่นและแอบอยู่ต่ำกว่ามาตรฐานของ MCU รู้สึกว่าตัวละครเองควรเล่นในมุมหนังสายลับหรือบอกเล่าเรื่องราวที่ลึกซึ้งและเข้าถึงได้มากขึ้นเพราะเป็นคนพิเศษ ความสามารถที่เราจะได้เห็นการต่อสู้แบบดิบๆหรือเต็มกำลังมากขึ้น รวมถึงปมครอบครัวต่างๆ ด้วยเช่นกัน แต่สิ่งนี้ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นจึงน่าผิดหวังมากที่จะบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการเล่าเรื่อง ส่งต่อให้ตัวละครอีกตัวเป็นหนังเพื่อปูทางไปสู่เรื่องต่อไป แทนที่จะไม่เน้นอะไรมากเท่าที่ฉันรู้สึก แต่ถ้ามองในแง่ผู้ติดตามหรือแฟนๆ ให้มองเพื่อปูทางหรือรวบรวมไว้ให้ครบ ฆ่าเวลา และในไทยต้องรอเข้าฉาย สิงหาคม และ Disney+ Hotstar ตุลาคม อีกครั้ง